บทความนี้เป็น Concept หรือแนวคิดที่เราจะเอาความรู้ Elliott Wave ไปใช้ทำกำไรในสถานะการณ์จริงกัน.... ผมแบ่งเป็น 5 ชั้นตอนตาม Mind Map ด้านล่าง นักเรียนลองทบทวนความเข้าใจครับ (อย่าลืมหยิบสไลน์ขึ้นมาประกอบด้วยนะครับ)
มาเริ่มกันเลย...
ดูภาพด้านบนประกอบ ไล่ไปทีละขั้นตอนนะครับ
ขั้นตอนแรก Elliott Wave Pattern
... ขั้นตอนนี้ให้ดูในวงกลมนะครับ วงกลมหมายถึงขอบเขตการลงทุนของนักลงทุนแต่ละท่าน เล็กใหญ่ก็ว่ากันไปตามแต่ละบุคคล ภายในวงกลมนี้จะบรรจุรูปแบบราคาของสินทรัพย์ที่เราเฝ้าจับตาเพื่อลงทุน ยกตัวอย่าง วงกลมของผมก็จะประกอบไปด้วย หุ้นรายตัวของไทยและต่างประเทศหลายร้อยตัว (รวม SET50 Future ด้วย) ทองคำ น้ำมัน สินค้า Commodities อื่นๆประมาณ 20 ตัว และตลาด Forex อีกประมาณ 40-60 คู่ (จะเห็นว่าวงกลมของผมใหญ่มาก) ทุกวันของผมคือการเฝ้าจับตาดู Pattern ราคาของพวกมัน ซึ่งพวกมันก็จะแสดงอารมณ์ออกมาหลากหลาย พวกมันทั้งโกรธเกรี้ยว พวกมันกังวลและไม่แน่ใจ พวกมันตื่นตระหนก และพวกมันเริ่มที่จะแน่ใจในบางสิ่งบางอย่าง อารมณ์เหล่านี้เราก็มองผ่าน Elliott Wave Pattern ตามที่เรียนมานะครับ
ข้อสังเกต
- นักลงทุนมีงานทำทุกวัน งานของเราคือการคีย์ข้อมูลซื้อขายใช่หรือไม่? ตอบว่าไม่ใช่ นะครับ งานของเราคือการ Mornitor สินทรัพย์ที่เราจะสามารถเข้าไปเก็งกำไรได้ ใช้เวลาค้นหาพวกมัน คัดทิ้ง คัดเก็บ แต่ยังไม่ลงทุน แค่เก็บเอาไว้จับตาดูเท่านั้น
- ขั้นตอนนี้ผมแนะนำว่าเราควรจะขยายขอบเขตการลงทุนให้กว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้ อย่าลงทุนในสินทรัพย์เพียงแค่ตัวใดตัวหนึ่ง ควรมีตัวเลือกมากๆ ตัวไหนลงทุนไม่ได้ตัดทิ้งไป (ไม่ใช่ทิ้งแล้วทิ้งเลยนะครับแต่ต้องคอยกลับมาวนเวียนดูมันเรื่อยๆ) แล้วดูตัวใหม่ จากประสบการณ์ผมพบนักลงทุนที่รอเทรดแต่ SET50 Future เพียงตัวเดียว เทรด Gold เพียงตัวเดียว... อันตรายมากครับ สินทรัพย์แต่ละตัวมีจังหวะในการลงทุน ส่วนใหญ่พวกมันจะลงทุนไม่ได้ แต่จะเปิดช่องน้อยๆ ให้เข้าไปลงทุนเก็งกำไรเท่านั้น ถ้าเรามีตัวเลือกน้อยหรือมีเพียงตัวเลือกเดียว เราจะรอโอกาสไม่ได้ ถือว่าอันตรายมากครับ (รอไม่ได้)
ขั้นตอนที่สอง เช็คการจบ
...จากขั้นตอนแรกคือจับตาดูสินทรัพย์ที่สามารถจะลงทุนได้ ก็เพื่อจะมาที่ขั้นตอนนี้คือ "ตรวจสอบการจบชุดคลื่นของพวกมัน"(นักเรียนสามารถทบทวนได้ในสไลน์ที่ 3 เรื่องการตรวจสอบการจบนะครับ) เราตรวจสอบอะไรบ้าง? เราตรวจสอบ 2 อย่างนะครับ คือ Correction ในคลื่น 2 เพื่อเล่นคลื่น 3, ตรวจสอบ Correction คลื่น 4 เพื่อเล่นคลื่น 5, ตรวจสอบ Correction คลื่น B เพื่อเล่นคลื่น C, ตรวจสอบ Correction คลื่น X-wave เพื่อเล่นเทรนแบบ Non-standard Correction .... นอกจากนั้นเราต้องตรวจสอบการจบเทรนด้วยครับคือตรวจสอบการจบคลื่น 5 เพื่อเล่นในคลื่น 1 หรือ A (แนวโน้มใหม่) และตรวจสอบการจบเทรนแบบ Non-standard Correction เพื่อเล่นขา Retracement ของพวกมัน (แนวโน้มใหม่) .... ที่นี้ถ้าพวกมันไม่สามารถตรวจสอบการจบได้ เราก็ไม่ทำอะไรนะครับ โยนพวกมันกลับไปที่ขั้นตอนแรกได้เลย ยังไม่เข้าซื้อขาย ... แต่ถ้าพวกมันสามารถเช็คการจบได้ เราก็มาขั้นตอนที่ 3 ครับ
ข้อสังเกต
-ยึดขั้นตอนนี้ไว้ให้มั่นนะครับ การตรวจสอบการจบรูปแบบราคาถือเป็นหัวใจสำคัญในการวิเคราะห์ Realtime เพื่อเข้าซื้อขาย อธิบาย มันก็คือจุดเข้าซื้อขายนั่นล่ะ นอกจากนั้นยังหมายถึงจุดเปลี่ยนหน้าเล่นด้วย เช่นเรา Long Position เอาไว้แต่ปรากฏว่าเทรนขาขึ้นถูกเช็คว่าจบก่อนที่จะถึงเป้าหมาย เราก็ต้องตัดทำกำไรขาขึ้นก่อนเป้าหมาย แล้วเล่นขาลงเปิด Short Position แล้วไล่ราคาลงมา
ขั้นตอนที่สาม ทิศทางของราคา
... รูปแบบที่ถูกตรวจสอบว่าจบไปแล้ว มันจะบอกทิศทางให้กับเรา (หลังจากที่พวกมันจบแล้ว) เราจึงสามารถเข้าซื้อขายได้ (จำไว้ว่าในระดับ Realtime เราต้องการทราบเพียงแค่ว่ามันจะขึ้นหรือลง ไม่ต้องการทราบว่าต่อไปมันจะเป็นรูปแบบอะไร)
ขั้นตอนที่สี่
ทิศทางที่ได้ก็มีอยู่สองทางครับ ขึ้นกับลง (Up Trend, Down Trend) ส่วนรูปแบบที่ตรวจสอบการจบไม่ได้ มันจะเป็นอะไรก็ได้นะครับไม่แน่นอน อาจเป็น Sideway ก็ได้ หรืออะไรก็ได้ เพราะพวกมันยังไม่จบยากที่จะคาดเดาเป็นไปได้หลากหลาย เราจึงไม่เข้าซื้อขายรูปแบบที่เช็คการจบไม่ได้
ขั้นตอนที่ห้า เป้าหมายราคา
... รูปแบบที่จบไปแล้ว มันจะบอกชุดคลื่นที่แน่นอนและเป็นจริงให้กับเรา (เพราะถูกตรวจสอบแล้ว) และเหนืออื่นใด พวกมันบอกทิศทางและเป้าราคาให้กับเราด้วย (แต่ละรูปแบบมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน) ถ้าขึ้น ขึ้นเท่าไร? และถ้าลง ลงเท่าไร? ให้ดูจากรูปแบบที่ถูกตรวจสอบว่าจบไปแล้วเท่านั้นครับ ไม่เดา
ข้อสังเกต
- ในเรื่องของเป้าหมายราคาสำคัญมากครับ ให้นักเรียนทบทวนและจดจำเรื่องนี้ให้ขึ้นใจ เป้าหมายของ Extension ต่างๆ, เป้าหมายของ Segment 3 ที่ได้รับผลจาก Segment 2 ที่จบไป, เป้าหมายของรูปแบบ Non-standard Correction Trend อย่าลืมสังเกตด้วยว่า Non-standard Correction ที่ถูกปิดท้ายด้วย Flat และ Triangle ควรวางเป้าที่เท่าไร
- อีกเรื่องที่ห้ามหลงลืมคือ อย่าให้เป้าหมายกับ Sideway Correction เด็ดขาด การให้เป้าจะให้เฉพาะรูปแบบของแนวโน้มเท่านั้น (Standard Trend, Non-standard Trend) ส่วนรูปแบบ Sideway Correction รอเช็คการจบและเข้าซื้อขายหลังการจบของพวกมันเท่านั้น
เรื่องสุดท้าย อย่าเดารูปแบบ
รูปแบบราคาที่ยังไม่ถูกเช็คว่าจบมีความเป็นไปได้หลากหลาย มันจะเป็นอะไรก็ได้ร้อยแปดชนิด ฉะนั้นอย่าเดา สิ่งที่เราทำได้คือตรวจสอบการจบของพวกมันแล้วให้เป้าหมายราคาหลังจากที่พวกมันจบไปแล้ว เช่นในขณะที่คลื่น 2 ยังไม่ถูกเช็คว่าจบ เราก็ได้แค่ตั้งสมมติฐานเท่านั้นว่ามันอาจจะเป็น 2 แต่จะรู้แน่ก็ต่อเมื่อมันถูกเช็คว่าจบแล้วเท่านั้น ฉะนั้นรอเช็คการจบ 2 แล้วหาเป้าของ 3 (ตามรูปแบบของคลื่น 2) และแน่นอนเราก็ไม่มีทางรู้อีกเช่นกันว่า 3 จะสร้างเทรนไปเป็นรูปแบบอะไร ไม่ต้องเดา ให้หาเป้าหมายของคลื่น 3 แล้วไปรอที่เป้า ระหว่างรอก็จับสัญญาณการตรวจสอบการจบคลื่น 3 ด้วย (เผื่อว่า 3 อาจไม่ถึงเป้าจะได้ Take Profit ออกมาก่อน), ในขณะที่ราคากำลังทำคลื่น 3 หลายๆ คนก็มองข้ามช็อทไปคลื่น 5 แล้ว อย่างนี้เรียกว่าเดานะครับ... เราจะรู้ว่าคลื่น 5 มาแน่ๆ ก็ต้องรอให้คลื่น 4 เกิดและเช็คการจบ เราจึงจะได้ทิศทางของคลื่น 5 และเป้าหมายของคลื่น 5 และสร้างผลกำไรในคลื่น 5 ได้แบบปลอดภัยครับ... จำไว้ว่าอย่าเดารูปแบบ....
ขอให้นักเรียนทุกท่านโชคดีครับ ใครว่างๆ ก็อย่าลืมแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเยือนหรือมาทบทวนบทเรียนกันนะครับwww.advance-elliottwave.com