Dragon Pattern

 
เกือบ 20 ปีก่อนผมเคยเขียนเรื่องนี้ลงใน BlockSpot ของ Google จากนั้น 8 ปีก่อนก็คัดลอกลงใน Facebooks ส่วนตัว พบว่ามีเพื่อน ๆ นักลงทุนสนใจจำนวนมาก วันหยุดว่าง ๆ ก็ขอนำบทความที่เป็นประโยชน์มาลงในเว็บไซต์อีกครั้งครับ
 
 
 
Dragon Pattern นี้เป็นทฤษฎีของศาสตราจารย์ Suri Duddella ติดตามงานวิจัยของท่านได้ที่นี่ครับ www.surinotes.com
...ศาสตราจารย์ Suri ท่านบอกว่า แม้ว่าระดับเป้าหมายของราคาอาจจะไม่ตรงกันทุกครั้งแต่รูปแบบนี้ก็มักจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ กันเสมอ ๆ รูปแบบมังกรเป็นหลักการที่จะคล้าย ๆ กับ M-Pattern (หรือ Double Top) และ W-Pattern (หรือ Double Bottom) จะแตกต่างในเรื่องของการหาระยะเป้าหมายเล็กน้อย
...โดยส่วนตัวแล้วผมเองชอบการวิเคราะห์แนวนี้เพราะมันดูมีชั้นเชิง และเป็นการบริหารสมองทั้งสองซีกซ้ายและขวาไปพร้อม ๆ กัน มันจะทำให้เราจดจำสิ่งต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กับการวิเคราะห์ทางตรรกะได้รวดเร็ว และมีประสิทธภาพมากกว่าการใช้สมองซีกซ้ายซึ่งทำหน้าที่คิดคำนวณเชิงตรรกะเพียงด้านเดียว
 

คำแนะนำก่อนเรียนรู้

1. รูปแบบมังกร (Dragon Pattern) ถ้ามองในมุมของ Elliott Wave มันก็คือขา Retracement ของคลื่นสุดท้ายใน Pattern นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น Stadard Impulsion และ Non-standard Impulsion อย่าง Terminal, 5th Wave Failure หรือว่าใช้ในทำนองเดียวกับ Correction บางตัวเช่น Weak-b Wave Flat, Truncated Zigzag
 
2. ท่องใว้อย่าลืมว่าเทคนิคทางด้าน Chart Pattern นั้นมีอยู่ 2 มุมคือ ใช้วิเคราะห์หาสภาวะตลาดโดยรวม และอีกมุมคือใช้หาจุดเข้า-ออก การที่จะใช้เทคนิคให้ประสบผลสำเร็จคือคุณต้องหาสภาวะตลาดที่เอื้อต่อการทำกำไร จากนั้นจึงลงไปหาจุดเข้าซื้อขาย (อาจเป็น Time Frame เดียวกันหรือ Time Frame ที่ต่ำกว่าก็ได้) หากสภาวะตลาดโดยรวมไม่เอื้อต่อการทำกำไร จุดเข้า - ออกนั้น ๆ ก็อาจเป็นแค่ Noise ของตลาดเท่านั้นเองครับ
 
 

ภาพบน

ลองมาจินตนาการให้เห็นเป็นรูปมังกรกันก่อนครับ (ในรูปบนผมทำให้ดูเฉพาะขาขึ้น ในขาลงก็ใช้วิธีส่องกระจกกลับด้านเอานะครับ) มังกรก็จะประกอบไปด้วย

- หัวมังกร ก็คือสูงเก่านั่นเอง (High)

- ขาหน้า ก็คือจากสูงร่วงลงมาทำต่ำใหม่ (Low)

- คอ ก็คือระยะจากหัวถึงขาหน้า (Down Trend, Up Trend)

- หลัง ก็คือระยะปรับฐานนั่นเองต้องอยู่ระหว่าง 38.2-50% ของคอมังกร (Retracement)

- ขาหลัง ระยะของขาหลังคือ 61.8-127% ของคอมังกร แปลว่าขาหลังอาจยาวหรือสั้นกว่าก็คอมังกรก็ได้ แต่ผมแนะนำตามทฤษฎี Elliott Wave ว่าถ้าขาหลังสั้นกว่าขาหน้าสัญญาณ Up Trend (การเปลี่ยนแนวโน้ม) จะแรงมาก

- สุดท้ายคือหางมังกร ตรงหางนี่เองที่เราใช้ทำกำไร หรือถ้าเกิด หัวมังกร, ขาหน้า, หลังมังกร, ขาหลัง พร้อมสรรพแล้วหางมังกรก็เกิดแน่ ๆ ส่วนจะยาวเท่าไรนั้นก็ดูที่ตัวทฤษฎีในภาพถัดไปครับ
 
 

ภาพบน

Hump and Leg ขนาดของหลังและขามังกร

ระยะแรกที่ถือเป็นส่วนสำคัญของรูปแบบก็คือขนาดของหลังและขามังกร พยายามเทียบสัดส่วนให้ตรงกับทฤษฎีมากที่สุดครับ
รูปนี้แสดงขนาดของหลังและขามังกรที่ถูกต้องตามทฤษฎี

- ขนาดของหลัง (Hump) จะต้องอยู่ระหว่าง 38.2-50% ของคอมังกรหรือระยะ AB นั่นเอง หรือพูดอีกอย่างหลังมังกรก็คือ Retracement 38.2-50% ของแนวโน้มก่อนหน้านั่นเองครับ

- ขนาดของขามังกร พอราคาขึ้นมาทำหลังมังกรเราก็จะได้ขาหน้า จากหลังมังกรราคาวิ่งกลับลงมากลายเป็นขาหลัง ตามทฤษฎีกำหนดใว้ว่าขาหลังจะต้องอยู่ระหว่าง 61.8-127% ของคอมังกร (AB) แสดงว่าขาหลังสามารถยาวกว่าคอมังกรได้ แต่ผมแนะนำว่าขาหลังควรจะสั้นกว่าคอ หรือถ้าขาหลังสั้นกว่าขาหน้าได้จะยิ่งดีครับ เพราะรูปแบบจะไปคล้ายกับ 5th Wave Failure จะยิ่งทำให้ระยะหางของมังกรพุ่งไปไกลและรวดเร็วยิ่งขึ้นครับ
 
 

ภาพบน

จุดเข้าและจุดตัดขาดทุน

สำหรับจุดเข้าซื้อขายเพื่อทำกำไรนั้นให้เราขีดเส้นจากหัวมังกร ลากผ่านไปที่หลังมังกรก็จะได้เส้น AC ดังรูปก่อนหน้า แล้วรอให้ราคา Break เส้น AC นี้ครับ

---รูปนี้เมื่อราคา Breakout เส้น AC ก็เปิดสถานะ Buy จุดตัดขาดทุนตำราบอกว่าที่ Low ของขาหลังแต่ผมแนะนำว่าขาหน้าหรือขาหลังก็ได้เพราะสองตำแหน่งนี้ถือเป็นแนวรับที่สำคัญและใกล้เคียงกันครับ
 
 

ภาพบน

ภาพนี้เป็นการเล่นในขาลงบ้าง (Short/Sell) เมื่อราคา Break Down เส้น AC ก็เปิดสถานะ Sell จุดตัดขาดทุนก็คือที่ยอดของขาทั้งสองครับ
 
 
 

ภาพบน

Take Profit Situation

เรื่องของจุดทำกำไรนั้นคุณต้องไม่ลืมว่าต้องเผื่อค่าเบี่ยงเบนให้มันด้วย โดยปิดทำกำไรก่อนถึงระดับ Take Profit จริง ๆ เล็กน้อยเป็นการเผื่อขาดเผลื่อเหลือไว้ครับ... จุดปิดทำกำไรจะมี 3 จุดหลัก ๆ ด้วยกันดังนี้ครับ

127% ของ CD

- e คือจุดเข้าซื้อ
- F คือจุดทำกำไรแรกคือระยะ 127% ของขาหลัง (CD)
 
 

 

ภาพบน

จุดทำกำไรจุดที่ 2 คือระยะ 90-100% ของ AB (รูปบน ตำแหน่ง G) ระยะนี้ก็คือแถว ๆ หัวมังกรนั่นเอง หรือสูงเก่า (ต่ำเก่า) ที่จะเป็นแนวต้าน (แนวรับ) นั่นเองครับ
 
 

 

ภาพบน 

ระยะ TP สุดท้าย ก็คือ 127-138.2 ของ AB (ตำแหน่ง H คือ TP สุดท้าย - ไม่แนะนำ)

รูปนี้คือระยะสุดท้ายที่ราคาจะเป็นไปได้คือระดับ 127-138.2% ของ AB
 
 
 
 
รูปแบบมังกรก็มีรายละเอียดของทฤษฎีตามที่ได้เล่ามาทั้งหมดครับอย่าลืมทำ Back Test, Forward Test และฝึกฝนให้ชำนาญครับ...

อ่านบทความจบแล้วก็ขอให้ร่ำรวย ๆ สุขภาพกายแข็งแรง จิตใจสดชื่นเบิกบานกันถ้วนหน้าครับ
 
 
 
 
 
ติดต่อสอบถามคอร์สเรียน แนะนำติชมมาที่
 
Email: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
Line ID: i_woottichai

มาพูดคุยกันที่แฟนเพจ www.facebook.com/advanceelliottwave